"แผนที่และประวัติศาสตร์ชุมชนแหลมสนอ่อน"
"แผนที่และประวัติศาสตร์ชุมชนแหลมสนอ่อน"
วันที่ 12 พ.ย.2565 นัดคณะทำงานและตัวแทนชุมชน โครงการถอดบทเรียนกรณีโควิด-19 และพัฒนาต้นแบบชุมชนเข้มแข็งในการรับมือกับภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ กรณีชุมชนแหลมสนอ่อน ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา อยู่ภายใต้โปรแกรม “การยุติโรคระบาดด้วยนวัตกรรม” (Ending Pandemics through Innovation, EPI) โดยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) และสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ(สช.) โดยมีมูลนิธิชุมชนสงขลาเป็นพี่เลี้ยง
เป้าหมาย ถอดบทเรียนการรับมือโควิด-๑๙ที่ผ่านมา และพัฒนาต้นแบบชุมชนเข้มแข็งเพื่อจัดการตนเองรับมือสาธารณภัยที่ลงมากระทบชุมชน
นัดหมายทีมคณะทำงานร่วมทำความเข้าใจเครื่องมือการพัฒนา ทบทวนข้อมูลชุมชนในภาพรวม คนและกลุ่มองค์กรในชุมชน สถานที่สำคัญ/หน่วยงานที่อยู่ในพื้นที่ กิจกรรมสำคัญ รวมถึงความต้องการข้อมูลที่อยากให้ทีมงานเก็บเพิ่ม อาทิ บ้านเช่า/บ้านแบ่งเช่า บ้านมีเลขที่กับเลขที่ชั่วคราว พร้อมตรวจสอบต้นทุนของชุมชน เช่น ช่างฝีมือ/งานช่างต่างๆ อุปกรณ์หรือเครื่องมือที่จะนำมาใช้เพื่อส่วนรวม ไอทีหรือเทคโนโลยีที่มี ยานพาหนะ และหาที่ว่างสาธารณะ แหล่งมั่วสุม การนับถือศาสนา โครงสร้างพื้นฐาน ระบบไฟ น้ำ จำนวนประชากรตามทะเบียนราษฏร์และประชากรแฝง เป็นต้น
พร้อมกับเติมเต็มแผนที่ทำมือ เพิ่มข้อมูลที่ตกหล่น และจัดทำ Timeline ประวัติศาสตร์ชุมชน
ชุมชนแหลมสนอ่อน อยู่ในพื้นที่เทศบาลนครสงขลา มีสมาชิก ๕๙ ครัวเรือน ๒๑๐ คน ประสบปัญหาการใช้กรรมสิทธิ์ที่ดินซุึ่งเป็นที่ราชพัสดุ กรมธนารักษ์ สมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหารอยู่อาศัยในพื้นที่มากว่า ๓๕ ปีในฐานะคนอพยพ ในเนื้อที่ ๑๓๐ ไร่(แปลงหมายเลขทะเบียนที่สข ๕๕๓ นับเฉพาะพื้นที่ชุมชนเพียง ๓๐ ไร่) แต่ไม่ได้ทำสัญญาเช่าให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ก่อนปี ๒๕๐๐ มีชื่อเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า "อ่าวกอและ" เป็นที่หลบพายุ ที่ทิ้งขยะ และที่จำหน่าย(ยิงนักโทษ) เริ่มมีชุมชนประมงพื้นบ้านอพยพมาตั้ง “ทับ” หรือ “กระท่อม” ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๐๒ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้มาตรวจราชการที่จังหวัดสงขลา เห็นว่าที่ตั้งชุมชนเหมาะที่จะพัฒนาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จึงสั่งให้รื้อย้ายชุมชนประมงพื้นบ้านที่อพยพมาจากรอบพื้นที่จังหวัดสงขลา บ้านหนองจิกจังหวัดปัตตานีให้ไปอยู่ที่ ท่าสะอ้าน หัวเขาแดง และเก้าเส้ง
ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๑๑ มีการสร้างเขื่อนกันทรายและคลื่นปากร่องน้ำสงขลายาวประมาณ ๗๐๐ มตร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตะกอนชายฝั่งทะเลไปตกในร่องน้ำเดินเรือของทะเลสาบสงขลา ส่งผลให้ตะกอนทรายที่เคลื่อนมาจากทิศใต้ตกทับถมทางด้านใต้โครงสร้างนี้ แหลมสนอ่อนเริ่มขยายพื้นที่เนื่องจากการสะสมตัวของตะกอนทรายดังกล่าวกว้างมากขึ้นนับจากนั้น
ปี ๒๕๒๕ รัฐบาลสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จัดระเบียบชายหาดสมิหลาแล้วก็ให้พ่อค้าแม่ค้าที่มาอยู่แถวชายหาดมาอยู่อาศัยที่ชุมชนแหลมสนอ่อนในปัจจุบัน โดยไม่ได้ทำสัญญาให้เป็นกิจลักษณะ สมาชิกเริ่มสร้างบ้านทำร้านอาหารประกอบกิจการของตนมานับสิบปี ไฟฟ้าที่ได้เป็นไฟชั่วคราว น้ำก็เป็นน้ำบาดาลเจาะเองหรือซื้อน้ำทาน
ฯลฯ
พร้อมใช้โอกาสนี้ประสานกลุ่มต่างๆ ในชุมชนแหลมสนอ่อน มาร่วมปรับฐานคิดการพัฒนา มีส่วนร่วมในการถอดบทเรียนจากอดีตไปยังอนาคตข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้คนเห็นคุณค่าและเกิดความร่วมมือกัน
Relate topics
- จดหมายข่าวโครงการประชาสังคมร่วมแรงเพื่อเปลี่ยนแปลงเมือง (SUCCESS) ฉบับที่ 1 - 10
- ก้าวที่ 1 ของ iMedCare ธุรกิจเพื่อสังคมของสงขลา"
- "แผนผังภูมินิเวศ"
- เครือข่าย SUCCESS เมืองควนลังร่วมงานส้มโอเมืองควนลังปี 2567
- "ทีม iMedCare วิถีผู้ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน"
- อังกฤษที่ผมเห็น ตอนที่ 11 - 21
- อังกฤษที่ผมเห็น ตอนที่ 1 - 10
- "iMed@home ระบบกลุ่ม"
- สมัชชาสุขภาพจังหวัดสงขลาชูวาระ "พลิกโฉมพลังพลเมืองสงขลาเพื่อสังคมสุขภาวะที่ยั่งยืน"
- กิจกรรมรับบริจาคโลหิตประชารัฐสงขลาประจำเดือนตุลาคม 2567