"จัดเลี้ยงแบบบริการตนเอง จ.สงขลา"
"จัดเลี้ยงแบบบริการตนเอง จ.สงขลา"
ปี 2554 เครือข่ายองค์กรชุมชน ภาคประชาสังคม ที่รวมตัวกันทำแผนสุขภาพจังหวัดมาตั้งแต่ปี 2549 ได้ยกระดับการทำงานสร้างวาระร่วม วางเป้าหมายสร้างค่านิยมใหม่ "ลดความหน้าใหญ่ใจเติบ" ของการจัดเลี้ยงแบบคนใต้ ตามแนวทางของยุทธศาสตร์การสร้างค่านิยมร่วมของวาระพลเมืองของสมัชชาสุขภาพจังหวัดสงขลา
ประกอบกับปัญหาการจัดงานศพมีการใช้กำลังคนในการจัดการงานค่อนข้างมาก ส่งผลให้มีใช้ค่าใช้จ่ายสูง ที่สำคัญ มีการกินแกงเวียน ใส่ข้าวในถุงพลาสติก จึงได้มีความพยายามในการสร้างค่านิยมใหม่
แกนนำหลักที่เสนอแนวคิดและขับเคลื่อนประกอบด้วย ครูฑูรย์ ลุงเล็ก ยินดีและชมรมบินหลาหาข่าว รวมถึงลุงลัภย์ พี่มนุชาธิป พี่ชัยวุฒิ และอีกหลายท่าน ผมในขณะนั้นในนามเครือข่ายสร้างสุขภาพ สจรส.ม.อ. ก่อนที่จะมาเป็นมูลนิธิชุมชนสงขลา ในฐานะหน่วยประสานงานเราได้จัดเวทีสัญจรระดับอำเภอร่วมกับชมรมบินหลาหาข่าว เพื่อเสาะหาของดีในพื้นที่แต่ละอำเภอของสงขลา ด้วยเชื่อว่าการต่อยอดจากสิ่งดีๆที่มีอยู่ สามารถขยายผลได้ง่าย กระทั่งสัญจรไปอำเภอนาทวี พบว่าที่นี่ใช้การจัดงานเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ในงานศพมานานแล้ว จึงได้นำมาสู่การขยายผลทั้งจังหวัด
เริ่มด้วยการถอดบทเรียนการจัดเลี้ยง หาข้อดี ข้อด้อย พัฒนารูปแบบ และกระตุ้นสร้างการรับรู้ด้วยการให้บินหลาหาข่าวคุยผ่านสื่อวิทยุยามเช้าซึ่งสมัยนั้นเสียงตามสายแต่ละหมู่บ้านยังเป็นสื่อกลางที่ยังคงบทบาทสำคัญมากกว่าโซเชี่ววมีเดียดังเช่นทุกวันนี้ ชวนคุยทุกเช้าเพื่อสื่อสารให้เห็นข้อดีของการจัดเลี้ยงบริการแบบตนเอง ควบคู่กับชวนทีมอสมท.ลงไปทำสกู๊ปเผบแพร่ทางทีวี. จนเกิดกระแสความรับรู้ ต่อมาทีมได้จัดทำป้ายไวนิลรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆไปทั่วจังหวัด นำข้อดีทั้งลดรายจ่าย สดวก เจ้าภาพมีเวลาในการพูดคุยกับแขกมากขึ้น พร้อมกับเผยแพร่รูปแบบการจัดการ และมีจุดนำร่อง มีชุดอุปกรณ์กลางบริการให้ยืมใช้ พร้อมถังใส่ข้าวไม่นำข้าวใส่ถุงพลาสติก จนเกิดกระแสขึ้นมาทีละจุด และสร้างแรงจูงใจตำบลใดมีการจัดบุฟเฟ่ต์จะมีการประสานให้นายกอบต.มอบประกาศนียบัตร นอกจากนั้นยังมีทำ MOUร่วมกับตำบลที่ขับเคลื่อน มอบสื่อ มอบประกาศนียบัตรให้ในงานสำคัญ
ต้องขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับลุงเล็ก ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญ ขับเคลื่อนอย่างมุ่งมั่น
ต่อมาทีมได้เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านกฤษฏา บุญราช ขอให้ทำเป็นนโยบายระดับจังหวัด ผู้ว่าฯรับหลักการและจัดซื้อชุดอุปกรณ์กลางให้แต่ละอำเภอ ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 3-4 ปี จนเกิดการนำไปปฎิบัติอย่างแพร่หลาย แม้ในพื้นที่ซึ่งมีแรงต้าน อาทิ คาบสมุทรสทิงพระ ด้วยวัฒนธรรมการไปงานแล้วจะต้องมีของกินถือกลับบ้านและค่านิยมหน้าใหญ่ใจเติบ แต่ก็ได้รับความสนใจจนกลายเป็นเรื่องคุ้นเคยของคนสงขลาไปในที่สุด
ปัจจุบัน วัดแทบทุกวัดจะมีชุดอุปกรณ์กลางพร้อมแม่ครัวบริการ เจ้าภาพไม่ต้องไปหยิบยืมชุดอุปกรณ์ใดๆอีก ทำกันจนกลายเป็นเรื่องปกติ
นี่คือตัวอย่างการสร้างข้อตกลงหรือกติกาหรือธรรมนูญที่เกิดขึ้นในระดับพื้นที่ นับเป็นนโยบายสาธารณะที่เกิดขึ้นจากคนในพื้นที่ระดับจังหวัดมีส่วนร่วมและดำเนินการด้วยตนเอง อีกรูปแบบหนึ่ง
Relate topics
- "iMedCare ธุรกิจเพื่อสังคมดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน"
- "การประชุมสานพลังความร่วมมือด้านที่อยู่อาศัยจังหวัดสงขลา"
- “รถตู้ลดเหลื่อมล้ำ” กำลังจะขยายผล!!
- "วัดคลองแห"
- มหกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่การพัฒนาระบบบริการฟื้นฟูสมรรถภาพและกายอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการ จ.สงขลา ปีที่ 3 และสมัชชาพลเมืองสงขลาปี 2568 วันที่สอง
- "สมัชชาพลเมืองสงขลา ปี 2568 วันแรก"
- "ประชุมเครือข่ายสมัชชาพลเมืองสงขลา"
- "ทบทวนแผนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จ.สงขลา"
- "วงใต้ต้นหว้า"
- ประชารัฐฯ สงขลา เดินหน้าผลิตเจลอาบน้ำ Propolis แบรนด์ Singgora เพิ่มสูตรผู้สูงวัย ดัน Soft Product สู่ตลาดออนไลน์