"วัดคลองแห"

by punyha @9 ก.ย. 68 20:47 ( IP : 110...64 ) | Tags : ข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์
  • photo  , 960x720 pixel , 159,681 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 118,904 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 53,916 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 79,991 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 61,214 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 64,894 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 93,144 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 60,474 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 102,680 bytes.
  • photo  , 960x1280 pixel , 159,030 bytes.
  • photo  , 960x540 pixel , 90,301 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 163,244 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 127,539 bytes.
  • photo  , 960x720 pixel , 94,723 bytes.

"วัดคลองแห"


ผมรู้จักวัดคลองแหผ่านครูเสริฐ(ประเสริฐ รักษ์วงศ์) ราวปี ๒๕๔๗ ขณะที่เข้ามาทำงานให้เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัดสงขลา ครูเสริฐมาเสนอโครงการโนราบิก...ออกกำลังกายด้วยท่าโนรา ต่อมาผมขอปรับเป็นโครงการโนราโรงครูสร้างเสริมสุขภาพ พยายามหามุมที่จะนำภูมิปัญญาเดิมต่อยอดให้ร่วมสมัย ผ่านงานสร้างสุขภาวะทั้งมิติกาย ใจ สังคม ปัญญา เราประชุมกันที่ศาลาท่าน้ำ โดยมีหนังนครินทร์ ชาทอง มาร่วมกับทีมศิลปินพื้นบ้าน เราช่วยกันระดมความคิด เริ่มกิจกรรมกับกลุ่มเยาวชนสืบสานโนราโรงครู จัดตั้งชมรม และทำงานร่วมกับวัดคลองแหมานับแต่นั้น


ทว่าย้อนหลังไปปี ๒๕๔๑ ท่านพระครูสมพร เจ้าอาวาส ผู้นำคนสำคัญได้ก่อตั้งกลุ่มรักษ์คลองแหขึ้นมาก่อนแล้ว ปลุกคนคลองแหเพียรทำกิจกรรมรักษาสายคลองที่เริ่มมีน้ำเสียจากโรงงานน้ำยาง และจากชุมชนเมืองหาดใหญ่ ทั้งเก็บผักตบชวา ขยะ จัดการน้ำเสีย แล้วก็เป็นฐานที่มั่นสำคัญเชื่อมโยงกลุ่มคนอาสาในชุมชน กลุ่มอนุรักษ์ และศิลปินพื้นบ้านเข้ามาร่วมงาน


เริ่มจากโนราโรงครู รุ่งขึ้นปี ๒๕๔๘ เครือข่ายสร้างเสริมสุขภาพจังหวัด(ต่อมาก็คือมูลนิธิชุมชนสงขลาในปัจจุบัน)และโครงการเมืองน่าอยู่ โดยมีพี่ดุก จ่าคม พี่อุดม ครูเสริฐ และท่านพระครู พัฒนาขึ้นอีกก้าวใหญ่ๆ จับมือกันทำโครงการวัฒนธรรมพื้นบ้านประสานวัดฯ นำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม เชื่อมโยงกับมิติวัฒนธรรมและชุมชน นำไปสู่การสร้างสุขภาวะ โจทย์ของชุมชนชานเมือง คนต่างคนต่างอยู่มากขึ้น คนดั้งเดิมกับวัดเริ่มห่างเหินกัน แต่ก็มีคนต่างถิ่นต่างที่มาอาศัยมากขึ้น วัดก็เช่นกัน เข้มแข็งได้ด้วยเครือข่ายภายนอกด้วยการประสานของท่านพระครู


ช่วงพัฒนาโครงการ เราไล่เรียงปฎิทินกิจกรรมในรอบปีที่วัดทำอยู่ เสริมกับกิจกรรมที่อยากจะฟื้นฟูในด้านวัฒนธรรม อาทิ การไหว้ "หลาเทียมดา" การแต่งกาย การทำอาหาร การละเล่นการแสดงพื้นบ้าน มุ่งไปที่เยาวชนได้มาเรียนรู้ ส่วนมิติการด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการน้ำเสีย เราทำ "ฝายดักขยะ" เริ่มด้วยทำฝายเฉียง ต่อมาปรับเป็นฝายดักขยะถาวร จัดเวทีสภาลานวัดนำคนเฒ่ามาเล่าเรื่องที่มาของคลองแห...เรื่องเล่านี้เองเป็นที่มาของกิจกรรมที่เป็น event สำคัญ คืองานย้อนตำนานคลองแห นำเรื่องเล่าการร่วมบุญสร้างเจดีย์พระบรมธาตุที่นครศรีธรรมราช จำลองภาพในอดีตโดยกลุ่มศิลปินพื้นบ้านนำแสดงกับชุมชน ผ่านขบวนแห่เรือของชาวกลันตันนำสมบัติที่บรรจุในนกคุ่มเงินนกคุ่มทอง มาฝังไว้ ณ โคกนกคุ่ม ภาพเจดีย์ในวันนั้นยังเป็นจุดร่วมบุญของบรรพชนที่ยังไม่สมปรารถนา กระทั่งนำมาสู่การสร้างเจดีย์มหาบุญในปัจจุบัน


ผลจากงานย้อนตำนานคลองแห ซึ่งก็ได้มีการจัดต่อเนื่องอีกหลายครั้ง จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้ง อยู่ที่นายกหัวมันต่อยอดมาเป็น "ตลาดน้ำคลองแห" ยกระดับงาน นำผู้กำกับดัง ดาราดังมาเปิดการแสดงกลางสายน้ำ เปิดตัวตลาดน้ำอย่างยิ่งใหญ่


วัดคลองแหก็ถูกยกเป็นศูนย์วัฒนธรรมเฉลิมราช โคกนกคุ่มที่เคยร้างรก ถูกแผ้วถางสร้างเจดีย์มหาบุญไทย-พม่า โดยพี่น้องแรงงานชาวพม่าหลากหลายเชื้อชาติ


ตลาดน้ำคลองแหเป็นอีกจุดบุกเบิกของตลาดเชิงวัฒนธรรมในปัจจุบัน


บันทึกงานนี้เอาไว้ในโมงยามที่งานวัฒนธรรมชุมชนกลับมาเฟื่องฟูในโลกยุดิจิตอล...สร้างรายได้ สร้างกิจกรรมการท่องเที่ยวเต็มแผ่นดิน


อ้อ ยังจำได้อีกว่ากรรมการมูลนิธิชุมชนสงขลาเคยมาประชุมที่นี่ ระดมความเห็นต่อการพัฒนาเอาไว้ นี่ก็ใกล้เลือกตั้ง(ใหญ่)อีกแล้ว เชื่อว่าทุกข้อยังดำเนินการได้อยู่นะครับ


๑.เสนอแนะเชิงนโยบายการพัฒนาในรูปแบบสหการของทม.คลองแห ทน.หาดใหญ่ ทม.คอหงส์ ทม.ควนลัง ที่ควรรวมเป็นมหานคร การพัฒนาจะได้มีทิศทางมิใช่ต่างคนต่างคิด ต่างทำเช่นทุกวันนี้


๒.การต่อยอดทุนเดิม แลทองที่คลองแห ที่สามารถสร้างเรื่องเล่าจากที่มีพ่อท่านทองเป็นบุคคลสำคัญ เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนคลองแหดั้งเดิม โดยสานต่อเรื่องราวสมัยสงครามโลกที่วัดกลายเป็นที่หลบภัยของเถ้าแก่สี(ขุนนิพัทธ์จีนนคร) ยกระดับความเชื่อเรื่องนกคุ่มเงินนกคุ่มทองในเชิงสามารถคุ้มเงินคุ้มทอง ธนูทอง ไอ้ยอดทอง เจดีย์ทอง ฆ้องทอง ปลาช่อนทอง อาศัยเรื่องเล่าเหล่านี้สานความเป็นชุมชนให้มีพลัง ข้ามพ้นความแตกแยกทางการเมือง สร้างฐานรายได้ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์รองรับการท่องเที่ยว


๓.สร้างความเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม ที่นี่มีทั้งตลาดน้ำคลองแห มัสยิดกลาง เจดีย์ไทยพม่า นับเป็นสังคมใหม่ที่น่าสนใจ ขอเพียงข้ามพ้นในเรื่องความแตกแยกทางการเมืองกันเองของคนในชุมชน และสานผลประโยชน์ให้สมดุล จะเป็นอีกพื้นที่การพัฒนา


ชาคริต โภชะเรือง บันทึกเรื่องราว

Relate topics

personมุมสมาชิก

เยือนอเมริกา ดูงานมูลนิธิชุมชน

เยือนอเมริกา ดูงานมูลนิธิชุมชน.

เครือข่าย

เครือข่ายมูลนิธิชุมชน