ความคืบหน้า "ชุมชนแหลมสนอ่อนกับการภารกิจสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย"
ความคืบหน้า "ชุมชนแหลมสนอ่อนกับการภารกิจสร้างความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย"
ขั้นตอนที่กำลังดำเนินการเรื่องการทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุโดยตรงกับธนารักษ์ เพื่ออยู่อาศัยของชุมขนแหลมสนอ่อนจำนวน 59 หลังคาเรือน (ที่มาข้อมูล : จากการสำรวจและทำแผนที่มือของชาวชุมชนเมื่อเดือนกันยายน 2564)
ขั้นตอนแรกวันที่ 7 ตุลาคม 64 แกนนำมีหนังสือขอเข้าพบนายกเทศมนตรีนครสงขลาพร้อมด้วยอาจารย์คณะสถาปัตยกรรม มทร.ศรีวิชัยเพื่อรับทราบแผนและนโยบายของเทศบาลนครสงขลาในการบริหารจัดการพื้นที่ชุมชนแหลมสนอ่อน
ขั้นตอนที่ 2 นายกเทศมนตรีนครสงขลาจะออกหนังสือเชิญธนารักษ์พื้นที่สงขลาพร้อมแกนนำเข้าหารือ
ขั้นตอนที่ 3 เทศบาลนครสงขลาและธนารักษ์จะออกหนังสือเชิญผู้ที่ประสงค์จะทำสัญญาเช่ากับธนารักษ์เข้าประชุมเพื่อชี้แจงรายละเอึยดต่างๆ ให้รับทราบพร้อมกันเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน
ระหว่างนี้แกนนำจะเชิญสมาชิกกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ชุมชนแหลมสนอ่อนประชุม
ในกรณีที่ทำสัญญาเช่าตรงกับธนารักษ์ หลังจากได้รับหนังสือสัญญาเช่าแล้ว พอช. กระทรวงพัฒนาสังคมฯ จะเข้ามาเพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือให้ชาวชุมชนแหลมสนอ่อนมี่ที่อยู่อาศัยที่มั่นคงถาวรและมีอาชีพที่สร้างรายได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีงบประมาณ 2 รูปแบบคือ
รูปแบบที่ 1 เป็นงบสนับสนุน(ภาษาชาวบ้านคือ งบให้เปล่า) จำนวน 30,000 บาทต่อหลังคาเรือน เพื่อใช้ในการซ่อมแซมบ้าน
รูปแบบที่ 2 งบสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อปลูกสร้างบ้านหลังใหม่(กรณีต้องการปลูกใหม่) และเพื่อประกอบอาชีพตามที่ตนเองต้องการ
คุณสมบัติของที่ผู้ที่จะได้รับสิทธิคือ
1.เป็นผู้ที่มึสัญญาเช่าตรงกับธนารักษ์
2.เป็นสมาชิกกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ชุมชนแหลมสนอ่อน (ระยะเวลาของการเป็นสมาชิกจะหารือร่วมกันอีกครั้ง)
ขณะนี้ พอช.ได้ให้สถาปนิกของหน่วยงานมาให้ความรู้และเรียบเรียงขั้นตอนตั้งแต่การสำรวจหลังคาเรือน การทำแผนที่มือ และการเตรียมการต่างๆ บ้างแล้ว
พร้อมกันนี้ก็ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อดูแลชุมชนในช่วงการแพร่ระบาดโควิดภายใต้โครงการดูแลคุณภาพขีวิตฯในพื้นที่เทศบาลนครสงขลา
2564 โดยอนุมัติงบสนับสนุนมาแล้ว 2 ระดับคือ
-ระดับชุมชน 13 ชุมชน จำนวน 350,000 บาท ชุมมชนแหลมสนอ่อน ได้รับจำนวน 20,000 บาท
-ระดับเมือง จำนวน 150,000 บาท
นางบุณย์บังอร ชนะโชติ เป็นผู้เสนอและรับผิดชอบโครงการ
จากการสนับสนุนของ พอช. เพื่อที่อยู่อาศัยที่มั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีของชาวชุมชนแหลมสนอ่อนและอีก 54 ชุมชนเขตเทศบาลนครสงขลานั้น พวกเราจะทำงานร่วมกันหลายฝ่ายในนามของ " เครือข่ายพัฒนาเมืองสงขลา" โดยมีภาคีเครือข่ายหลักในส่วนของภาคประชาสังคมคือ มูลนิธิชุมชนสงขลา โดยคุณชาคริต โภชะเรือง
นอกจากนี้ก็จะมีทุกภาคส่วนเข้าร่วมทำงานด้วยกัน โดย เทศบาลนครสงขลาจะมีบทบาทสำคัญในฐานะเป็นผู้ดูแลและรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของพื้นที่เขตการปกครอง 55 ชุมชน
พวกเรา ชาวชุมชนแหลมสนอ่อน ตั้งถิ่นฐานมานานหลายสิบปีและจะอยู่ต่อไปชั่วชีวิต
เทศบาลและภาคราชการทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเรา ท่านเหล่านั้นมาระยะหนึ่งแล้วก็จากไปจะโดยการหมดวาระ หรือโดยการเกษียณอายุราชการ ฉะนั้นพวกเราควรจะเป็นผู้กำหนดอนาคตของชุมชนแห่งนี้ภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายกเทศมนตรีได้บอกเล่าเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมหลังจากที่ได้รับฟังแนวคิดของชุมชนผ่านการถ่ายทอดจากแกนนำว่า ชุมชนแหลมสนอ่อนมีกติกาชุมชนที่ชัดเจนเรื่องการควบคุมจำนวนครัวเรือนและจำนวนหลังคาเรือน รวมถึงแผนการพัฒนาที่พวกเราคิดร่วมกันตั้งแต่การเปิดตลาดนัดชุมชน การอนุรักษ์ความเป็นพื้นที่สีเขียว ตลอดถึงการที่คุณลุงนิพนธ์ ชนะโชติ ได้พัฒนาปรับปรุงสระบัวในสวน 80 พรรษา พลิกฟื้นจากสระที่เต็มไปด้วยขยะ เปลี่ยนเป็นสระบัวสวยงามที่มีพันธุ์ปลานิลให้ชาวชุมชนได้จับไปกินไปขายจากปี 2560 จนถึงปัจจุบัน และจนได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เทศบาลนำไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ
นายกเทศมนตรีจึงได้บอกเล่าว่า เทศบาลมีแผนจะพัฒนาพื้นที่แหลมสนอ่อนบริเวณชายหาดหลังอะควาเรี่ยม ในส่วนพื้นที่ชุมชนก็ให้ชาวบ้านทำสัญญาเช่าให้เรียบร้อย
ส่วนพื้นที่สวน 80 พรรษา เทศบาลทำเฉพาะทางเดินเท้าหลังบ้านเพื่อป้องกันการปลูกสร้างบ้านรุกล้ำเข้าไปในสวน
สำหรับการดูแลพื้นที่นั้น อาจารย์จามิกรได้เสนอแนวคิดว่า ถ้ามอบให้ชาวชุมชนร่วมกันดูแลโดยมีมหาวิทยาลัยรวมถึงหน่วยงานต่างๆเข้ามาสนับสนุน ชุมชนแหลมสนอ่อนน่าจะเป็นชุมชนที่เป็นตัวอย่างได้ในหลายๆด้าน อาจารย์ได้อธิบายข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมความประทับใจจากการที่เข้ามาร่วมทำงานกับพวกเรามาอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปีจนถึงปัจจุบันนี้และมหาวิทยาลัยยังมีแผนที่จะเข้ามาส่งเสริมในการสร้างพื้นที่เพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุอีกด้วย
มาถึงวันนี้ ชาวชุมชนหลายคนน่าจะพอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ว่า ความสามัคคี ความร่วมมือที่พวกเราได้ทุ่มเทร่วมกันมาในรูปแบบของกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ
การปลูกผักสวนครัว การผลิตของใช้เพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือน การจัดสวัสดิการชุมชนในด้านอาหาร "ครัวปิ่นโตตุ้มตุ้ย"
ด้านเสื้อผ้าของใช้มือสองแบ่งปันภายในและภายนอกชุมชนในนามของศูนย์แบ่งปันผ้าสร้างสุขแหลมสนอ่อน ตลอดไปถึงการมีกลุ่มสัจจะออมทรัพย์ มีศูนย์บ่อยางฯ มีกองทุนช่วยเหลือผู้ยากลำบาก และมีวิสาหกิจชุมชนสวนผักกลางป่าสน
ทั้งหมดคำตอบมาอยู่ที่คำว่า "ชุมชนแหลมสนอ่อน" และทุกคนจะเชื่อมั่นร่วมกันว่า ชาวชุมชนแหลมสนอ่อนเท่านั้นที่จะเข้าใจและรักความเป็น "แหลมสนอ่อน " มากที่สุด คนหนุ่มสาวหลายคนที่เกิดและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จนถึงปัจจุบัน
ขณะเดียวกันผู้สูงอายุที่มีชีวิตอยู่ในชุมชนขณะนี้ก็ต้องการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ที่นี่ตลอดไป
ขั้นตอนถัดจากนี้ไปคือ แกนนำรายงานผลการเข้าพบนายกเทศมนตรีต่อหัวหน้าธนารักษ์สงขลา แล้วทางเทศบาลจะเชิญธนารักษ์เข้าพูดคุยแบบประชุมโต๊ะเล็ก แล้วจึงจะเรียกประชุมพร้อมกันหมดทุกฝ่ายและทุกครัวเรือนในชุมชน
แต่ละครัวเรือนคิดกันเองได้เลยว่า จะร่วมมือสามัคคีกันหรือจะแตกแยกกันเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ผลประโยชน์เฉพาะหน้าแบบเช่นที่ผ่านมากันอีก ตัวแกนนำเองทำได้เพียงแค่ประสานให้ทุกฝ่ายได้มาพบกันเท่านั้นเอง
บุณย์บังอร ชนะโชติ บันทึกเรื่องราว
7 ตุลาคม 2564
Relate topics
- จดหมายข่าวโครงการประชาสังคมร่วมแรงเพื่อเปลี่ยนแปลงเมือง (SUCCESS) ฉบับที่ 1 - 10
- ก้าวที่ 1 ของ iMedCare ธุรกิจเพื่อสังคมของสงขลา"
- "แผนผังภูมินิเวศ"
- เครือข่าย SUCCESS เมืองควนลังร่วมงานส้มโอเมืองควนลังปี 2567
- "ทีม iMedCare วิถีผู้ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน"
- อังกฤษที่ผมเห็น ตอนที่ 11 - 21
- อังกฤษที่ผมเห็น ตอนที่ 1 - 10
- "iMed@home ระบบกลุ่ม"
- สมัชชาสุขภาพจังหวัดสงขลาชูวาระ "พลิกโฉมพลังพลเมืองสงขลาเพื่อสังคมสุขภาวะที่ยั่งยืน"
- กิจกรรมรับบริจาคโลหิตประชารัฐสงขลาประจำเดือนตุลาคม 2567