ชึวิตสีเขียวอ่อนที่ชุมขนแหลมสนอ่อน
"ชึวิตสีเขียวอ่อน"
14 กุมภา 64 สมาชิกชุมชนแหลมสนอ่อนประมาณ 40 กว่าชีวิต ตื่นเช้าลุกขึ้นมาพัฒนาพื้นที่ชุมชนให้สะอาด น่าอยู่ โดยแบ่งกันเป็น 2 ทีมคือ ทีมเบื้องหน้า ถือไม้กวาด มีดพร้า และจอบเสียมออกแรงพัฒนาพื้นที่รอบๆชุมชน กับ ทีมเบื้องหลัง(ไม่ปรากฎในรูป)ช่วย พัฒนาอยู่ที่บริเวณบ้านของตนเอง แต่ก็ยังมีน้ำใจส่งเสบียงมาหนุนเสริมทีมเบื้องหน้าตั้งแต่อาหารมื้อเช้า น้ำดื่ม น้ำอัดลม และขนุนสุกจากต้น เพื่อเพิ่มกำลังกายและกำลังใจ ปกติชุมชนแหลมสนอ่อนมักถูกสังคมนินทาค่อนขอดว่า เป็นชุมชนที่ไม่ค่อยจะมีผู้ชายร่วมกิจกรรม แต่วันนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาเพราะมีผู้ชายมาร่วมกิจกรรมด้วยหลายคน อาทิ หนุ่มน้อยโตโต้ พี่โทน ลุงตุ้ย ลุงพงษ์และลุงนิพนธ์
ชีวิตในชุมชนแหลมสนอ่อนกำลังจะก้าวย่างไปสู่ชืวิตสีเขียวอ่อน ซึ่งพอจะอธิบายได้ดังนี้
1.วิถีชืวิตที่อยู่ร่วมกันเป็นสังคมชุมชนนั้น มีหลักยึดสำคัญชันชีกันว่า
-หิ้วปิ่นโตมากินมื้อเที่ยงร่วมกันทุกวันที่ 9 ของเดือนส่วนช่วงบ่ายก็จะจัดกิจกรรมกลุ่มออมทรัพย์/กลุ่มอาชีพ หรือ กลุ่มเรียนรู้ตามความสนใจของสมาชิก
-อาหารในปิ่นโตทุกคนต่างคนต่างทำกันมา แล้วแบ่งปันเพื่อนร่วมชุมชนบ้างต่างชุมชนบ้าง ปฎิบัติต่อเนื่องกันมาจนกลายเป็นวัฒนธรรมที่รับรู้กันในสังคมเมืองบ่อยางว่า ปิ่นโตตุ้มตุ้ยเกิดจากการแบ่งปันของคนที่นี่ ซึ่งเปลี่ยนจากเดิมที่ต่างคนต่างอยู่ มาเป็นสังคมที่มีน้ำใจ เกื้อกูลและแบ่งปันกัน นอกจากนี้ ปิ่นโตตุ้มตุ้ยยังปฏิบัติตามมาตรการป้องการแพร่ระบาดของโควิด - 19โดยเคร่งครัดอีกด้วย
-ชุมชนอ่อนหวานเป็นอีกหนึ่งแนวคิดของชุมชนที่จะทำในระยะต่อไปเพื่อป้องกันและลดกลุ่มเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ( NCDs)โดยเฉพาะโรคเบาหวาน ด้วยเหตุว่า ในชุมชนมีผู้ป่วยโรคเบาหวานถึง 20 รายจาก 206 ราย
2.ด้านเศรษฐกิจ สมาชิกแหลมสนอ่อนร่วมใจกันประกอบสัมมาชีพ ทุกครัวเรือน
ในช่วงสถานการณ์โควิด - 19 แพร่ระบาดระลอกแรกครัวเรือนส่วนใหญ่ในชุมชนได้หันมาใช้วิธีการลดรายจ่าย ผลิตของใช้ที่จำเป็นในครัวเรือนขึ้นมาใช้เอง และในส่วนของการเพิ่มรายได้ส่วนใหญ่ได้หันมาใช้ประโยชน์พื้นที่ข้างบ้านกับบางส่วนในป่าสนหลังบ้าน ปลูกผักสวนครัวปลอดภัยกินเอง และแบ่งขายบ้าง ระยะต่อไปในอนาคตได้ร่วมกันคิดว่าจะปลูกผักสวนครัวเพิ่มขึ้น โดยมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบมากขึ้นด้วยในนามของ " วิสาหกิจชุมชนสวนผักกลางป่าสน" ซึ่งลักษณะดังกล่าวคาดว่าเศรษฐกิจของชาวแหลมสนอ่อนมีทิศทางที่จะเป็นเศรษฐกิจสีเขียวและเน้นการพึ่งพาตนเอง
อนึ่งในทุกวันที่ 9 ของเดือนนอกจากจะมีสัญญาใจเรื่องหิ้วปิ่นโตเพื่อแบ่งปันกันแล้วสมาชิกยังมุ่งประเด็นไปที่การสร้างสิ่งแวดล้อมสีเขียวในชุมชนด้วยเนื่องจากการใช้ปิ่นโตบรรจุอาหารที่ช่วยกันลดขยะประเภทถุงหรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกได้ด้วย
นอกจากนี้สมาชิกได้ร่วมกันกำหนดกติกาขึ้นมาอีกข้อคือ ทุกวันที่ 9 ของเดือน ทุกครัวเรือนต้องหิ้วขวดขยะแห้ง (Eco brick) มาส่งด้วยอย่างน้อยบ้านละ 1 ขวด(น้ำหนักขยะประมาณ 0.5 กิโลกรัม) เพื่อเริ่มการคัดแยกขยะในครัวเรือนอย่างจริงจังมากขึ้น (ที่ผ่านมาพบว่า มีขยะแห้งในขวดบางส่วนเป็นโพยหวยใต้ดินที่คิดเป็นจำนวนเงินซื้อได้ถึง 8,000 บาท )
การจัดการขยะครัวเรือนและ ขยะทะเลบริเวณชายหาดที่ล้อมรอบชุมชน ทำให้ชุมชนต้องร่วมกันคิดเพื่อป้องกันปัญหา เนื่องจากชุมชนร่วมกันตั้งเป้าหมายว่า ชุมชนแหลมสนอ่อนเป็นชุมชนสีเขียวภายในปี 2570 และจะเตรียมการรับในการดูแลคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยและเป็นชุมชนการท่องเที่ยวผู้สูงอายุที่จะเป็นอีกช่องทางในการสร้างรายได้และการเป็นชุมชนน่าอยู่ของแหลมสนอ่อน
บุณย์บังอร ชนะโชติ บันทึกเรื่องราว
14 กุมภาพันธ์ 2564
Relate topics
- จดหมายข่าวโครงการประชาสังคมร่วมแรงเพื่อเปลี่ยนแปลงเมือง (SUCCESS) ฉบับที่ 1 - 10
- ก้าวที่ 1 ของ iMedCare ธุรกิจเพื่อสังคมของสงขลา"
- "แผนผังภูมินิเวศ"
- เครือข่าย SUCCESS เมืองควนลังร่วมงานส้มโอเมืองควนลังปี 2567
- "ทีม iMedCare วิถีผู้ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน"
- อังกฤษที่ผมเห็น ตอนที่ 11 - 21
- อังกฤษที่ผมเห็น ตอนที่ 1 - 10
- "iMed@home ระบบกลุ่ม"
- สมัชชาสุขภาพจังหวัดสงขลาชูวาระ "พลิกโฉมพลังพลเมืองสงขลาเพื่อสังคมสุขภาวะที่ยั่งยืน"
- กิจกรรมรับบริจาคโลหิตประชารัฐสงขลาประจำเดือนตุลาคม 2567