สงขลา "๑ จังหวัด ๒ ระบบ"

by punyha @10 ต.ค. 62 20:38 ( IP : 124...244 ) | Tags : ข่าวสาร-ประชาสัมพันธ์ , ร่วมคิด
  • photo  , 1238x480 pixel , 83,023 bytes.
  • photo  , 960x540 pixel , 55,770 bytes.
  • photo  , 960x540 pixel , 57,842 bytes.
  • photo  , 960x540 pixel , 57,243 bytes.
  • photo  , 960x540 pixel , 66,648 bytes.
  • photo  , 960x540 pixel , 44,723 bytes.
  • photo  , 960x540 pixel , 53,657 bytes.
  • photo  , 960x540 pixel , 54,959 bytes.

"๑ จังหวัด ๒ ระบบ"

เขียนโดย ชาคริต โภชะเรือง

ด้วยโครงสร้างประเทศที่รวมศูนย์แห่งอำนาจ รัฐบาลกลางคือจุดศูนย์กลางของการปกครอง ส่งต่อฟันเฟืองการบังคับบัญชากระจายลงมายังพื้นที่

ภายใต้โครงสร้างเช่นนี้ แม้จะมีส่วนท้องถิ่นที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนการใช้ปัญหาและศักยภาพของพื้นที่เป็นฐานมา "ถักทอ" กับโครงสร้างอำนาจแห่งส่วนกลาง แต่ภายใต้แนวคิดการพัฒนาที่มุ่งเน้นการใช้พลังแห่งอำนาจสั่งการณ์ เห็นกลไกเสมือนจักรกลแห่งระบบตามลักษณะแนวคิดแบบสังคมอุตสาหกรรม และนโยบายส่วนบุคคลของผู้มีอำนาจในระดับท้องถิ่น ทำให้เกิดช่องว่างการพัฒนา

ด้วยเหตุสังคมใหม่ ซับซ้อน ผันแปร และมีพลวัตรไปอีกแบบ ก่อผลสะเทือนสร้างความปั่นป่วนไปทุกระบบ สังคมไทยก็หนีไม่พ้น ขณะที่ยังติดกับดักความขัดแย้งการพัฒนา มีความหลากหลายของผู้คน ความคิด พื้นฐานการพัฒนาที่ไม่เท่าเทียมกัน โครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมเช่นนี้ทำให้การพัฒนาที่ตกอยู่ในมือผู้มีอำนาจและโครงสร้างรวมศูนย์ ไม่ยืดหยุ่นทำให้เกิดความตึงเครียด มีเกมชักกะเย่ออำนาจระหว่างความคิด "เสรีนิยม" และ "อนุรักษ์" อีกด้วย

พ้นไปจากเกมแห่งอำนาจของส่วนกลาง เรามีทางออกอื่นๆอีกหรือไม่

เราเริ่มเห็นการต่อรอง เห็นการเปิดประเด็นสาธารณะโดยอาศัยพลังจาก Social media เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงพลังเหล่านี้มาจากกระแสสังคมที่พยายามรวมตัวกัน สร้างความเป็นชุมชนแบบใหม่ เปิดพื่นที่เคลื่อนไหวทางความคิดเพื่อให้หลุดลอดพ้นจากมือแห่งผู้มีอำนาจที่จะควบคุม อีกด้านหนึ่ง แต่ละจังหวัดเองก็เริ่มมีการพัฒนาอีกรูปแบบที่อาศัยพลังพลเมืองถักทอและกำหนดทิศทางการพัฒนาของตนเอง เป็นพลังแห่งเครือข่ายแนวราบ(Soft power) ที่จะมีส่วนร่วมกำหนดแนวทางแห่งอนาคตบนฐานการใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง สร้างความต่อเนื่องของการแก้ปัญหาและนำศักยภาพที่มีอย่างหลากหลายมาลดช่องว่างการพัฒนา

อย่างไรก็ดี โจทย์ของแนวคิดเช่นนี้ยังอยู่กับการสร้างสมดุลกับกลไกปกติและการมีส่วนร่วมของแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอีกด้วย นอกจากจะต้อง "ถอดรื้อ" ความคิดและวัฒนธรรมการทำงานที่ถูก "แช่แข็ง" กับที่ ยังต้องระวังไม่ให้เกิดความสูญเสียจากความขัดแย้งแตกหักในช่วง "เปลี่ยนผ่าน" รวมไปถึงเปิดพื้นที่ให้กับปัจเจกชนหรือเสรีชนได้มีพื้นที่แสดงออก และสามารถต่อรองการพัฒนาที่มาจากส่วนกลางหรือทุนข้ามชาติ บวกกับแนวคิดการพัฒนาที่มีพลวัตรทั้งแบบ "ก้าวหน้า" หรือเป็นแบบรับมรดกตกทอดมาจากความคิดความเชื่อใดเป็นพิเศษ การปะทะสังสรรค์กันของแนวคิดดังกล่าว ไหลเวียน เกิดขึ้นอยู่ในแทบทุกพื้นที่

สงขลามี ๑๕ ภาคีบริหารจัดการพยายามที่จะกำหนดแนวทางการพัฒนาของตนเองผ่านการจัดทำวิสัยทัศน์สงขลา ๒๕๗๐ มีการตีความ และพยายามขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ดังกล่าวไปในหลายรูปแบบ ทั้งมาจากในกลุ่ม "ผู้หลักผู้ใหญ่" ของเมือง กลุ่มนักวิชาการ กลุ่มภาคเอกชน และประชาสังคม ต่างก็ช่วงชิง ต่อรอง มีปฎิสัมพันธ์กันอย่างหลากหลายแนวคิด กระบวนการ เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่กำลังสร้างทิศทางการพัฒนาแบบใหม่ ต่างปรับตัว พัฒนาตัวเองไปท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ในขบวนก็มีคนใหม่ และเก่าที่หมุนเวียนเข้ามาทำงานด้วย รวมไปถึงยังมีอีกหลายกลุ่ม หลายเครือข่ายที่ยังไม่ได้มีส่วนร่วม

ช่องว่างดังกล่าว หากสามารถยกระดับก้าวจากทิศทางการร้องขอ หรือเฝ้ารอพึ่งพิง มาสู่การเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา มีส่วนร่วมในระดับร่วมคิด ร่วมทุน ร่วมทำ การที่มีแผนหรือยุทธศาสตร์ร่วมกันของกลุ่มเครือข่ายที่มีแนวคิดสอดคล้องกันจึงเป็นทิศทางที่น่าสนใจ พร้อมกับพัฒนาเครื่องมือทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นการจัดการความรู้ การพัฒนา "ข้อต่อ" กลาง ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ทางความคิด ข้อมูลกลาง กลไกกลาง เวทีกลาง กองทุนกลาง พื้นที่การทำงานร่วมกันเช่นนี้ เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นตามลำดับ

เป็นอีกพลวัตรหนึ่งของสังคม

เหล่านี้คือผลพวงจากวงมื้อเที่ยงต้อนรับผู้ว่าสงขลาท่านใหม่ ของ ๑๕ ภาคีบริหารจัดการ

หมายเหตุ ๑๕ ภาคีบริหารจัดการ ประกอบด้วย ๕ องค์กรวิชาการ ๒ องค์กรภาครัฐ ๓ องค์กรภาคเอกชน และ ๕ องค์กรภาคประชาชน ได้แก่
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
มหาวิทยาลัยทักษิณ
มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
มหาวิทยาลัยหาดใหญ่
จังหวัดสงขลา
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา
หอการค้าจังหวัดสงขลา
สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา
สมาคมสมาพันธุ์ธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา
สมาคมมูลนิธิพลเอกเปรม ติณสูลานนท์
มูลนิธิสวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์
มูลนิธิมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
มูลนิธิชุมชนสงขลา และมูลนิธิเรารักสงขลา เฉลิมพระเกียรติ
ต่อมาได้เพิ่มสภาองค์กรชุมชน สภาเกษตรกรจังหวัด และธนาคารแห่งประเทศไทยมาเป็นที่ปรึกษา

personมุมสมาชิก

เยือนอเมริกา ดูงานมูลนิธิชุมชน

เยือนอเมริกา ดูงานมูลนิธิชุมชน.

เครือข่าย

เครือข่ายมูลนิธิชุมชน