กะบากเมืองคอน
ขอใหญ่ด้วยคน
ตื่นเต้นเร้าใจกับการคิดการไกลของผู้คน ในพื้นที่ต้นน้ำเมืองนครศรีฯ
ต้นมังคุด ร้อยปีห้าร้อยปีมีอยู่มากมาย รวมทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่หลากหลายชนิดเจ้าของสวนยางพารา สวนทุเรียน สวนมังคุด จำนวนมาก สร้างรุกขมรดก ไว้ให้ลูกหลาน ซึ่งต่างเชื่อตรงกันว่า”วันข้างหน้าลูกหลานจะมีทรัพย์สินอย่างเพียงพอ”
มีอยู่รายหนึ่ง ชื่อจรูญ สุวรรณรัตน์ อายุ 70 ปี เขามี”ต้นกะบากยักษ์”อยู่ในสวนมรดกที่รับตกทอดมาจากพ่อ อยู่บ้านคันเบ็ด ตำบลเขาแก้ว อำเภอลานสะกา
ก็ตื่นเต้น อยากรู้และไปดูให้เห็นกับตา ว่าจะใหญ่จริงเหมือนที่เคยไปดูที่จังหวัดตากไหม ซึ่งทราบว่าสามารถไปได้ไม่ยากนัก รถยนต์ก็ไปกันได้ แต่ก็ยังต้องเดินเท้าต่อไปอีกด้วย
เช่นเดียวกับกะบากยักษ์เมืองตาก แต่ที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือกะบากต้นนี้อยู่ไม่ห่างไกลจากชุมชนบ้านคันเบ็ดมากนักปกติชุมชนนี้เป็นจุดรับซื้อผลไม้จากชาวสวน และยังมีไม้กวาดดอกหญ้าที่ชาวบ้านมัดสานด้วยหวาย ทาน้ำมันยาง อย่างดี ทนทานใช้งานได้นานๆ เป็นสินค้าอีกตัว
ที่จุดจอดรถ มีแอ่งน้ำใส ไหลแรง คลองคันเบ็ดชวนให้ลงเล่นก่อนจะไปถึงต้นกะบากยักษ์
บนเส้นทางก็ยังชวนให้ทึ่งกับบรรดารถมอเตอร์ไซค์ ไต่ภูเขา ที่ชาวสวน หนุ่มแก่
หญิงชายขับขึ้นเขาลงเขากันอย่างคล่องแคล่วว่องไว
เราเดินเท้าผ่านสวนผลไม้แวะเข้าไปหาต้นกะบากยักษ์ที่ตั้งใจไว้ แต่ต้องบุกป่าผ่าดงกันสักหน่อย ซึ่งดูเหมือนว่าเราน่าจะเป็นคณะผู้บุกเบิกเปิดโฉมกะบากยักษ์เมืองคอนต้นนี้
เมื่อถึงที่เป้าหมาย ต้นกะบากยักษ์ มองดูไกลๆดูเหมือนจะไม่ค่อยจะโดดเด่นสักเท่าไหร่ เพราะมีบรรดาต้นไม้ใหญ่ๆละลานตาไปหมด ต้นเหรียงใหญ่ เคียงบังตา ต้นแซะใหญ่แอบแนบข้าง รายรอบไปด้วยต้นทุเรียนขนาดใหญ่ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ จึงได้พบความยิ่งใหญ่อลังการของต้นกะบากยักษ์ คุณจรูญ เจ้าของสวน บอกว่า เราต้องระวังผึ้งหลวงที่มาเกาะทำรังอยู่บนกิ่งปางของกะบากต้นนี้ ซึ่งมักจะมีอยู่คราวละหลายรัง ชาวบ้านแถบนี้จะเรียกว่า”ยวนผึ้ง”ถ้าตัวผึ้งจะเรียกกันว่า”ผึ้งยวน”เป็นที่รู้กันดีว่า ผึ้งยวนมักจะดุ ถ้าถูกรบกวน จากนักตีผึ้งที่สามารถปีนไต่ไปสูงถึง 20-40 เมตรและยังมี”นกรุ้ง”มาจิกตีกินน้ำผึ้ง ตัวอ่อนผึ้ง ด้วย
กะบากเมืองคอน”ขอใหญ่ด้วยนะ” ทีมงานรุกขมรดกเพื่อลูกหลานและคุณจรูญ สุวรรณรัตน์ เจ้าของสวน เริ่มลงมือแผ้วถางรอบโคนต้นกะบาก ต้นนี้ทันที การตรวจวัดรอบโคนต้น วางระยะห่างจากพื้นดิน ครึ่งเมตร เมื่อทำการวัดโดยรอบแล้วผลออกมาว่าเส้นรอบโคนต้นได้ 16.40 เมตร แหงนดูขนาดลำต้นแล้ว ชัดว่าทั้งสูงทั้งใหญ่ ประมาณเคร่าๆว่า น่าจะไม่น้อยกว่า 50 เมตร
เรื่องวัดความสูงของกะบากยักษ์เมืองคอนต้นนี้ เห็นร่วมกันว่าน่าจะต้องไหว้วาน”พญาวานร” แต่ก็ยังหวั่นเกรงผึ้งยวน(ผึ้งหลวง)จะเข้าต่อยตีเอา ทั้งคนทั้งลิง นึกว่าก็ยังคงอยากจะใช้วิธีการนี้อยู่
เสร็จกิจสำรวจกะบากยักษ์เมืองคอน เราเดินทางลัดเลาะผ่านแนวถิ่นอาศัยของชาวสวน ด้วยความคุ้นเคยกับคุณจรูญ เจ้าบ้านตะโกนเรียกให้แวะพักกินน้ำกินท่ากันก่อนเจ้าบ้านรับรองด้วยมะละกอกินกันไปคุยกันไป เจ้าของบ้าน ได้กล่าวว่า”มาดูกะบากแล้ว ทำไมไม่ดูต้นตีนเป็ดต้นใหญ่โน้นบ้างละ”
เมื่อเห็นแล้วร้องว้าวใหญ่จริงออนี่เจอแล้ว พญาตัวจริงต้นใหญ่สมชื่อพญาสัตบรรณ จริงๆ”...เสียงรำพึงอย่างตื่นเต้นจากทีมงานสำรวจ
ทำให้ทุกคนต้องลงมือพิสูจน์ พญาสัตบรรณต้นนี้โดยทำการตรวจวัดรอบโคนต้นผลออกมาเส้นรอบวงโคนต้น 8.50 เมตร
ตื่นเต้นระทึกใจด้วยกันทุกคน อิ่มแล้วบอกลาเจ้าของบ้าน แต่เราไม่ลืมที่แวะหาไม้กวาดดอกเลาฝีมือผู้เฒ่าขาวชุมชนบ้านคันเบ็ด
สบายใจจัง วันนี้เป็นวันเปิดเผยโฉมกะบากยักษ์เมืองคอน
พิชัย ศรีใส บันทึก
29 กันยายน 2563
Relate topics
- จดหมายข่าวโครงการประชาสังคมร่วมแรงเพื่อเปลี่ยนแปลงเมือง (SUCCESS) ฉบับที่ 1 - 10
- ก้าวที่ 1 ของ iMedCare ธุรกิจเพื่อสังคมของสงขลา"
- "แผนผังภูมินิเวศ"
- เครือข่าย SUCCESS เมืองควนลังร่วมงานส้มโอเมืองควนลังปี 2567
- "ทีม iMedCare วิถีผู้ดูแลผู้ป่วยที่บ้าน"
- อังกฤษที่ผมเห็น ตอนที่ 11 - 21
- อังกฤษที่ผมเห็น ตอนที่ 1 - 10
- "iMed@home ระบบกลุ่ม"
- สมัชชาสุขภาพจังหวัดสงขลาชูวาระ "พลิกโฉมพลังพลเมืองสงขลาเพื่อสังคมสุขภาวะที่ยั่งยืน"
- กิจกรรมรับบริจาคโลหิตประชารัฐสงขลาประจำเดือนตุลาคม 2567