มูลนิธิชุมชนสงขลา (Songkhla Community Foundation)

มิตรภาพข้ามซีกโลกของดุษฎีบัณฑิต

ผมกับศาสตราจารย์อีฟ กาญง (Professor Yves Granon) แห่งมหาวิทยาลัยมงตง ประเทศแคนาดา นั่งติดกันในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ทำให้ผมมีโอกาสได้เรียนรู้กันถึงเรื่องราวข้ามซีกโลกจากแคนาดา

ศ.อีฟ บอกว่า ชื่อของท่านนั้นเป็นภาษาฝรั่งเศส เมืองที่ท่านอยู่เป็นชุมชนคนฝรั่งเศสในแคนาดา ที่มาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยพิชิตทวีปอเมริกา ซึ่งตอนนั้นมีอาณานิคมของทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษในแผ่นดินแคนาดาและอเมริกาในปัจจุบัน ต่อมาฝรั่งเศสแพ้สงครามในทวีปยุโรปต่ออังกฤษ เลยต้องชำระค่าปฏิกรรมสงครามยกดินแดนอาณานิคมในแคนาดาให้อังกฤษ

ครั้งหนึ่งในอดีตยุคอังกฤษปกครองช่วงแรกๆ คนอังกฤษเคยรุกรานเข่นฆ่าคนฝรั่งเศสในแคนาดาปัจจุบัน จนคนฝรั่งเศสส่วนใหญ่หนีมาอาศัยที่รัฐหลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา อีกกลุ่มหนึ่งก็หนีเข้าป่าไป พอศึกสงบ คนกลุ่มที่หนีเข้าป่าก็กลับมาอาศัยตั้งรกรากที่เดิม และคนกลุ่มที่หนีเข้าป่าไปนั้นเองคือบรรพบุรุษของท่านศาสตราจารย์อีฟ

คนในเมืองที่ท่านอยู่ยังรักษาวัฒนธรรมฝรั่งเศสอย่างแข็งขันมาหลายร้อยปี ยังใช้ภาษาฝรั่งเศสในชีวิตประจำวัน ในมหาวิทยาลัยมงตงก็เปิดการเรียนการสอนทุกคณะเป็นภาษาฝรั่งเศส มีนักศึกษากว่า 5,000 คน ประเทศแคนาดาในปัจจุบันก็เปิดกว้าง ไม่ได้ปิดกั้นเสรีภาพทางวัฒนธรรมแต่อย่างใด

ท่านบอกว่า "ผมไปเที่ยวที่นั่นได้ เพราะคนฝรั่งเศสในแคนาดาทุกคนพูดอังกฤษได้ แต่คนอังกฤษในแคนาดานั้นบางคนเท่านั้นที่พูดฝรั่งเศสได้" ดูท่านจะภูมิใจยิ่งในการเป็นชนส่วนน้อยของประเทศ

ผมเล่าเรื่องปฏิบัติการติดโซลาร์เซลล์เพื่อสนับสนุนพลังงานสะอาดของผมและเครือข่ายให้ท่านฟัง ท่านเองจบสายวิศวกรรมและเชี่ยวชาญด้านพลังงานหมุนเวียน ท่านบอกว่าแคนาดาพึ่งพาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนได้แล้วถึง 67% ส่วนใหญ่จากพลังงานน้ำ ถัดมาคือ ลม ชีวมวลและแสงอาทิตย์ ที่นั่นอยู่ใกล้ขั้วโลกแสงอาทิตย์จึงมีน้อย แต่ประเทศไทยแสงอาทิตย์มีมาก นี่คือจุดแข็งของพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทย

ช่วงเวลาสั้นๆที่ผมได้คุยกับท่าน เป็นช่วงเวลาแห่งมิตรภาพข้ามโลกที่มีคุณค่ายิ่ง จึงบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ ก่อนที่กาลเวลาจะพาให้เรื่องดีๆจำต้องเลือนลางไป


2 ตุลาคม 2562

Cr. ภาพสวยๆจากเพจ We are Thaksin University